เป็น ระบบ การเล่นฟุตบอล แบบนึง ที่ทีมชาติฮอลแลนเคยใช้ เขย่า ยุโรปมาแล้ว โดยมี หลัก สำคัญอยู่ที่ว่า ทุกคนสามารถ ทดแทนตำแหน่งแทนกันได้หมด ทุกคนจะไม่มี ตำแหน่งตายตัว ในขณะการแข่ง และเมื่อ คนใดคนนึง หลุดจากตำแหน่งนั้น คนอื่นก็สามารถมาแทนในตำแหน่งที่ขาดไป ได้ โดยที่ไม่ต้องเสียเวลารอ คนที่หลุดตำแหน่งกลับมา ( โดยปกติการที่หลุดตำแหล่งหรือใครในตำแหน่งนั้นหายไปจะเปรียบเสมือน บ่อน้ำมันให้ทีมตรงข้าม บุกโจมตี เข้ามาจุดนี้ได้ ) ด้วยรูปแบบนี้ ทีมจำเป็นจะต้องมีนักเตะ ที่มี ศักยภาพ ในระดับนึง ซึ่งรูปแบบ จะประมาณนี้
คือ เมื่อคนใดในตำแหน่งหลุดตำแหน่งไป ระบบจะเริ่มจากตำแหน่งที่ใกล้เคียงนั้น จะเข้ามาทดแทนได้เพื่อปิดช่องโหว่ไม่ให้ถูกฝั่งตรงข้ามบุกโจมตีมาได้ ซึ่งโดยวิธีนี้ จะทำให้ นักเตะไม่ต้องใช้แรง ในการวิ่งขึ้นวิ่งลงไปมา และมีแรงเหลือสำหรับการแข่งขันตลอดทั้งเกมส์
เกิดมีความคิดหนึ่งขึ้นมา ว่า ..
ถ้าวันหนึ่ง เรานำระบบที่กล่าว ข้างต้น มาใช้ ในชีวิตจริง มันจะเกิดอะไรขึ้น ( ยังไม่รู้หรอกครับ 555 )
ผมคิดงี้นะครับ เรามีทีมที่ ทุกคน ทำงานไปในทิศทางเดียวกัน ทดแทนซึ่งกันและกันได้ ถึงจะไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เข้าใจถึงระบบ ในทิศทางเดียวกันทั้งทีม ( ในที่นี้ผมมองแค่ทีมก่อนนะครับ ) สร้างมาตราฐานในทีม ไม่สะเปสะปะ
ที่ผ่านมารอบตัวผม ผมเคยเจอคนที่เก่งก็หลายคนอยู่ แต่สิ่งนึงที่ขาดไปของคนเก่งที่ผมเคยเจอมา คือการถ่ายทอดความรู้หรือสิ่งที่ตัวเองมีให้คนอื่นภายในทีม สิ่งที่ตามมาคือ คนๆนั้น จะกลายเป็นเดอะแบก ของทีมไปทันที ซึ่งใน แง่ ของบริษัท ผมมองว่าเป็นเรื่องที่ดีที่มีคนเก่งอยู่ แต่กลับกัน มันกลายเป็นว่า ภาระหนักทั้งหมด มันจะต้องตกอยู่ที่คนๆเดียว เขาคนนั้นจะไม่มีแม้แต่ เวลาให้ กับการใช้ชีวิตของตัวเอง
ในมุมมองของผม ผมคิดว่า การถ่ายทอด สิ่งที่ตัวเองมีหรือการสร้างมาตราฐานให้แก่ทีม เป็นสิ่งที่ควรจะมี ในทุกทีมเพื่อให้งานไหลไป โดยไม่สะดุด แต่สุดท้ายมันก็จะต้องอยู่ที่ทีมด้วยว่า คนในทีมเรา พร้อมรับสิ่งที่จะถูกถ่ายทอดแค่ไหน หรือจะรับเรื่องพวกนี้ได้หรือเปล่า ผมเชื่อว่าแต่ละคนมีมุมมอง ในการออกแบบหรือเขียนโปรแกรมในรูปแบบต่างๆ กัน ถ้าเราไม่มีมาตราฐานหรือ มีการทำงานที่เป็น ในแบบเดียวกัน สุดท้ายมันจะสะเปะสะปะ ทุกคนจะคอยถามในสิ่งที่เราทำในวันที่คุณไม่อยู่ว่า ส่วนนี้คืออะไร.. error response แบบนี้ที่คุณเขียนไว้คืออะไร.. response data ที่ออกมานี้ ส่วนไหนที่เราต้องเอาไปใช้หรอ ไรงี้ … ซึ่งกลับกันหากเรามาตราฐานหรือแบบแผนของทีม ว่าเป็นไปในรูปแบบนี้ ทีนี้ สิ่งที่ทำก็คือ เราทำ คือ document หรือ อะไรสักอย่างที่เป็นตัวกลางของทีม ไว้ เท่ากับว่า เมื่อเกิดปัญหาหรือไม่เข้าใจ ในส่วนไหน สิ่งที่ ทีมจะทำคือการ เปิดไปดูในตัวกลางหรือ document ที่เดียวกันก่อน เคสร้ายแรงจริงๆ ถึงจะติดต่อคุณ จากที่ปกติจะติดต่อเข้าหาคุณก่อน กรณี คุณว่างคุยหรือสามารถตอบได้ ไม่ได้ทำอะไรพัวพันอยู่ ก็อาจจะ ดีไป แต่ในกรณีที่คุณไม่ว่างรับสายหรือ ไม่สะดวกตอบ มันจะทำให้ทีนี้จะเกิด การสะดุด ของงานได้
คิดง่ายๆ ตามภาษาเด็กแบบผม ตัวอย่างเช่น วันหนึ่ง ที่ใครสักคนในทีม เกิดมีปัญหา หรือลาออก โดยปกติ สิ่งที่ทำ คือ … ช็อคสิครับ เอาแล้วไง เดอะแบก เราไปแล้ว ใครจะดูต่อละทีนี้ ในกรณีนี้ ปกติ ทางบริษัทอาจจะมีการตกลง กันแล้วกับพนักงานว่า ก่อนออก อย่างน้อยเดือนสองเดือน ในมีการถ่ายโอนงานหรือส่งมอบงานในส่วนที่พนักงานที่จะออกไป ถืออยู่ให้แกคนอื่น แต่ถ้าหากในกรณี ที่พนักงานคนนั้น อยู่ๆก็หายไปแบบดื้อๆ เลย จะทำอย่างไร จะเกิดอะไรขึ้นกับคนที่ต้องมาต่องานละ..
ทั้งหมดจากที่กว่ามา ผมจะยังคงยืนยัน เหมือนเดิม ว่า ผมไม่ได้หมายความว่า ทุกคนในทีมไม่มีตำแหน่งของตัวเอง ทุกคนทุกตำแหน่ง
จากแผน Total football
ทุกคนมีตำแหน่งที่ตัวเองถนัด เป็นของตัวเอง สิ่งที่เพิ่มมาคือจากระบบ ที่ให้ทุกคนสามารถ ทดแทน กันได้ ถึงไม่ทั้งหมด แต่ก็ได้บ้าง งานไม่สะดุด ไม่เกิดการรอคนใด คนหนึ่งเกิดขึ้น
ยกตัวอย่าง ฟุตบอลอีกเช่นเคย อารมณ์คล้ายๆ ตอน เตะมุม ที่บรรดากองหลังขึ้นมาโหม่งเพื่อทำประตู ทำให้ตอนนี้ใน ตำแหน่ง กองหลัง โดยปกติจะหายไป แต่ทางทีมฟุตบอลเหล่านั้นก็ยังสามารถ นำคนอื่นในตำแหน่งอื่นมา ปิดช่องโหว่ นั้นไว้ ถึงจะไม่สามารถ ทดแทนกองหลังเหล่านั้นได้ร้อยเปอร์เซ็น แต่มันยังดีกว่าปล่อยว่างไว้
สำหรับผม ผมว่าที่ทุกคนเห็นในมุมมองเดียวกัน มีการทำงานที่เป็นระบบ ที่ตกลงกัน ทุกคนภายในทีมสามารถทดแทนตำแหน่งกันได้ ผมของเรียก Formation แบบนี้ตาม ลักษณะงานที่ทำว่า
“Total Programming”